ทีเส็บจับมือ UNWTO จัดงานประชุมไมซ์แห่งประชาคมอาเซียน ชูแผนขับเคลื่อนไมซ์ตามยุทธศาสตร์อาเซียน 10 ปี
#ข่าวประชาสัมพันธ์
28 กันยายน 2559 กรุงเทพฯ:
สานักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ จัดงาน ASEAN Conference on MICE in collaboration with UNWTO หรือ การประชุมธุรกิจไมซ์ อาเซียนโดยความร่วมมือกับองค์กรการท่องเที่ยวโลก แลกเปลี่ยนองค์ความรู้และนโยบาย ผนึกกาลังหวัง ผลักดันให้อาเซียนเป็นจุดหมายเดียวกัน รองรับนักธุรกิจไมซ์จากทั่วโลก พร้อมยึดกรอบยุทธศาสตร์การ ท่องเที่ยวอาเซียน 10 ปี (พ.ศ. 2559-2568) ขับเคลื่อนไมซ์ไทยสู่จุดหมายปลายทางคุณภาพ และเติบโตอย่าง ยั่งยืนในทุกมิติ
นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อํานวยกํารทีเส็บ กล่าวว่า “การส่งเสริมไมซ์ตามกรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579) นั้น ได้ให้ความสําคัญกับการทํางานภายใต้ความร่วมมือกับประเทศอาเซียน และหน่วยงานหลักๆระดับโลกที่ส่งเสริมธุรกิจไมซ์ โดย ทีเส็บได้เป็นสมาชิกสมทบ (Affiliate Member) ขององค์การการท่องเที่ยวโลกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือ และการสนับสนุนจากองค์การการท่องเที่ยวโลกในด้านธุรกิจไมซ์ ทั้งนี้การจัดงาน ASEAN Conference on MICE in collaboration with UNWTO หรือ การประชุมธุรกิจไมซ์อาเซียนโดยความร่วมมือกับ UNWTO นับเป็นการจัดงานครั้งแรกใน ประเทศไทย ที่ดําเนินการภายใต้กรอบยุทธศําสตร์อาเซียน และเป็นเวทีสําคัญที่สร้างการตระหนักรู้และเห็นถึงความสําคัญของ ธุรกิจไมซ์ในอาเซียนของผู้นําอาเซียนทุกประเทศ อีกทั้งยังเป็นโอกาสอันดีในการแลกเปลี่ยนทางความรู้และประสบการณ์ระหว่าง กัน ก่อให้เกิดความร่วมมือในระดับภูมิภาค และการประสานงานเชิงนโยบายในการส่งเสริมธุรกิจไมซ์ของอาเซียน โดยเฉพาะการ ยกระดับคุณภาพและมาตรฐานในภาคส่วนต่างๆ ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอํานวยความสะดวก เพื่อรองรับความต้องการ ของนักเดินทางกลุ่มไมซ์จํากทั่วโลกให้มาจัดงานไมซ์ในภูมิภาคน้ี อีกทั้งยังเป็นการประชาสัมพันธ์ประเทศไทยในฐานะจุดหมาย ปลายทางไมซ์แห่งอาเซียน การประชุมดังกล่าวมีหน่วยงานภาครัฐ ภําคเอกชน ผู้ประกอบการ ที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจไมซ์จําก อําเซียนเข้าร่วมเป็นจํานวนกว่า 270 ราย”
ด้าน นางสาววิภารัตน์ ธาราธีรภาพ ผู้อํานวยการฝ่ายบริหารรัฐกิจวิสําหกิจ ทีเส็บ กล่าวถึง แผนยุทธศําสตร์การท่องเที่ยวอาเซียน 10 ปี (พ.ศ. 2559-2568) ว่า “ภายใต้แผนยุทธศาสตร์นั้น วางเป้าหมายว่าในปี พ.ศ. 2568 อําเซียนจะเป็นจุดหมายปลายทางการ ท่องเที่ยวและการจัดงานไมซ์ที่มีคุณภาพ โดยนําเสนอความหลากหลายผ่านประสบการณ์อาเซียน อันนําไปสู่การจัดงานไมซ์อย่างมี ความรับผิดชอบและยั่งยืน มีความครอบคลุมในทุกมิติอย่างมีสมดุล นําไปสู่การกินดีอยู่ดี และความเป็นอยู่ท่ีดีทางเศรษฐกิจและ สังคมประชาชนอาเซียน โดยมี 2 แนวทํางหลักในการขับเคลื่อน ได้แก่
ด้านที่ 1 การเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในฐานะที่เป็นจุดหมายปลายทางเดียวกัน ผ่านแนวทางต่างๆ ดังนี้ (1) ทํา กํารตลําดและกิจกรรมส่งเสริมกํารตลําดอย่ํางเข้มข้น (2) มีผลิตภัณฑ์สําหรับกํารจัดกิจกรรมไมซ์ที่หลํากหลําย (3) ดึงดูดให้เกิด กํารลงทุนทํางด้ํานธุรกิจไมซ์เพิ่มมํากขึ้น (4) เพิ่มปริมําณและควํามสํามํารถของบุคลํากรด้ํานไมซ์ (5) วํางแผนดําเนินงํานและขยําย มําตรฐํานในกํารจัดงํานไมซ์ ไม่ว่ําจะเป็นสิ่งอํานวยควํามสะดวก บริกําร และจุดหมํายปลํายทํางต่ํางๆ (6) วํางแผนดําเนินงํานและ ขยํายกํารเชื่อมต่อตลอดจนโครงสร้ํางพื้นฐํานของจุดหมํายปลํายทํางต่ํางๆ และ (7) เสริมสิ่งอํานวยควํามสะดวกด้ํานกํารจัดงํานไมซ์
ด้านที่ 2 สร้างความมั่นใจว่าการจัดงานไมซ์ในอาเซียนเติบโตอย่างยั่งยืนและครอบคลุมทุกมิติ ได้แก่ (1) เพิ่มกํารมีส่วนร่วมของ ชุมชนท้องถิ่นและกํารมีส่วนร่วมของภําครัฐและภําคเอกชนในห่วงโซ่อุปทํานด้ํานไมซ์ (2) ปรับปรุงและพัฒนําควํามปลอดภัยและ กํารรักษําควํามปลอดภัย ตลอดจนให้ควํามสําคัญกับกํารบํารุงรักษําสถํานที่ที่มีควํามสําคัญทํางธรรมชําติและวัฒนธรรม และ (3) เพิ่มความรับผิดชอบต่อกํารปกป้องสภําพแวดล้อมทํางธรรมชาติ และการเตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลของสภาพภูมิอากาศ
สําหรับการขับเคลื่อนไมซ์ภายใต้ยุทธศาสตร์อาเซียนนั้น ทีเส็บสามารถไปใช้ประโยชน์จากแนวทํางการดําเนินงานต่างๆ ทั้งเพื่อการ กําหนดนโยบาย เป้าหมาย และทิศทางให้สอดรับการแนวทางการดําเนินงานของอาเซียน โดยที่ผ่านมาประเทศไทยทํางานร่วมกับ คณะทํางานไมซ์อาเซียนในหลายประเด็น แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นผลงานสําคัญของประเทศไทย คือกํารที่ ที่ประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยว อาเซียนครั้งที่ 43 ซึ่งจัดขึ้น ณ กรุงมะนิลํา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ได้เห็นชอบให้มาตรฐานสถานที่จัดงํานไมซ์ หรือ ASEAN MICE VENUE STANDARD กลายเป็นส่วนหนึ่งของแผนยุทธศําสตร์การท่องเที่ยวอาเซียน 10 ปี โดยมอบหมํายให้ประเทศ ไทยเป็นแกนหลักในการผลักดันการพัฒนามาตรฐานดังกล่าว ทั้งนี้มาตรฐาน ASEAN MICE VENUE STANDARD นั้น ได้รับการ พัฒนามาจาก Thailand MICE VENUE STANDARD ที่ประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่ริเริ่มการดําเนินงานมาตรฐานนี้เพื่อสร้าง มาตรฐานสําหรับสถานที่จัดงานไมซ์ และยังมีอีกหลากหลายมิติของการขับเคลื่อนไมซ์อําเซียน ภายใต้กรอบยุทธศําสตร์ ทั้งกําร ส่งเสริมกํารตลําด กํารพัฒนําสินค้าและบริการ หรือการพัฒนาทรัพยากรบุคคลด้านไมซ์ที่ทุกประเทศในอาเซียนต้องทํางานร่วม กัน ” นํายนพรัตน์กล่าวสรุป
อนึ่ง ในโอกําสที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดงานเฉลิมฉลองวันท่องเที่ยวโลก (World Tourism Day) ระหว่างวันที่ 27- 28 กันยํายน 2559 ทีเส็บได้เรียนเชิญผู้บริหํารระดับสูงขององค์การท่องเที่ยวโลก นายซู จิง (Mr. Xu Jing) ผู้อํานวยกํารกลุ่ม ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคขององค์กํารท่องเที่ยวโลก ร่วมกล่าวเปิดงานประชุมดังกล่าว โดยย้าว่า ในหลํายทศวรรษที่ผ่านมา อุตสําหกรรมกํารประชุม (Meeting Industry) ได้ส่งผลให้การท่องเที่ยวของโลกเติบโตอย่ํางรวดเร็วและประสบผลสําเร็จ และยังได้ ส่งผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกจํากกํารสร้างงําน สร้างรํายได้ และกระตุ้นให้เกิดกํารลงทุนมํากขึ้นด้วย อีกทั้งอุตสําหกรรม กํารประชุมยังเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดกํารท่องเที่ยวอย่างสม่าเสมอทั้งปี และสร้างโอกาสในการแลกเปลี่ยนและการพัฒนาทางองค์ ความรู้
ดังนั้น การจัดการประชุมในวันนี้ จึงเป็นช่วงจังหวะเวลาที่เหมําะสมกับการเติบโตของอุตสาหกรรมไมซ์ในตลาดอาเซียนที่กําลัง เติบโตอย่ํางรวดเร็ว ทั้งนี้ นํายซู จิง ได้กล่าวว่า ในปี 2561 คาดการณ์ว่าภูมิภาคอาเซียนจะมีนักท่องเที่ยวประมําณ 119 ล้านคน และในจํานวนน้ี คําดว่ําจะมีนักเดินทํางไมซ์มําสู่ภูมิภําคอําเซียนประมําณ 12 ล้ํานคน กํารประชุมในวันนี้จึงเป็นโอกําสที่ดีของ ประเทศสมําชิกอําเซียนที่จะได้แลกเปลี่ยนควํามรู้และประสบการณ์เพื่อให้อุตสําหกรรมกํารประชุมในอําเซียนได้ประโยชน์จากการเติบโตของตลาดภูมิภาคนี้ ทั้งนี้ องค์การการท่องเที่ยวโลก (UNWTO) มีกําหนดที่จะเผยแพร่รายงานอุตสาหกรรมไมซ์ในภูมิภาค เอเชีย-แปซิฟิก ฉบับที่ 2 ในเร็ววันนี้
สําหรับงําน ASEAN Conference on MICE in collaboration with UNWTO กําหนดจัดให้มีขึ้นในวันที่ 28 กันยํายน 2559 โดย มีบุคคลสําคัญเข้าร่วมงาน อาทิ นายซู จิง ผู้อํานวยกํารกลุ่มภูมิภําคเอเชียแปซิฟิคขององค์กํารท่องเที่ยวโลก และนายอิกอร์ สเตฟา โนวิค ผู้แทนองค์กํารกํารท่องเที่ยวโลก (UNWTO) ที่จะมาบรรยายพิเศษในหัวข้อ Role of Accessibility towards Competitive Advantage in MICE นอกจากนี้ ยังมีการเสวนําร่วมกันของผู้ทรงคุณวุฒิของไทยและระดับโลก หลายสาขา อาทิ ดร. ปรเมธี วิมล ศิริ เลขําธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นางคาเรน บอลิงเกอร์ ผู้อํานวยการสํานักงานการจัดประชุม แห่งเมลเบิร์น นางเจเนท ท่าน คอลลิส ประธานของสมําคมส่งเสริมกํารจัดประชุมและแสดงสินค้าของประเทศสิงคโปร์ (SACEOS) เป็นต้น
ที่มา: ข่าวประชาสัมพันธ์ สสปน.